วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

เทศกาลว่าวในอินเดีย

เทศกาลว่าวในอินเดีย : Kite Festival - In pics

A gathering of colourful kites of different sizes and hues


งานประเพณีว่าวประจำปี จัดขึ้นที่เมือง Ahmedabad ในวันที่ 14 มกราคมของทุกๆปี เป็นงานที่จักร่วมกับประเพณี Makar Sankranti ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนฤดู พร้อมทั้งเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดของฤดูหนาว ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส สายลมเย็นพัดพัดผ่าน สร้างความรู้สึกแห่งความหฤหรรษ์ สนุกสนาน และปลื้มปิติ ให้กับผู้คนที่มาเฉลิมฉลองเทศกาลนี้
Held at Ahmedabad on January 14 every year, the kite festival coincides with the festival of Makar Sankranti that heralds a change of season and officially signals the end of winter. The skies are blue and clear, a cool breeze blows and a feeling of anticipation, joy and jubilation grips all who celebrate the occasion


Petter Washe นักเล่นว่าวชาวฝรั่งเศส โชว์หุ่นยักษ์ให้คนที่ชื่นชอบว่าวชม ณ งานเทศกาลว่าวนานาชาติที่เมือง Ahmedabad ทางตะวันตกของประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2012
มีคนที่ชอบเล่นว่าวราว 200 คน จาก 24 ประเทศมาแข่งขันว่าว 5 วันในเทศกาลนี้
French kite flyer Petter Washe displays his giant puppet to kite lovers at the international kite festival in the western Indian city of Ahmedabad January 10, 2012. Around 200 kite-flying enthusiasts from 24 countries will compete in the five-day festival.


หุ่นยักษ์ยืนให้ผู้คนชม ในขณะที่ว่าวตัวอื่นๆลอยอยู่บนท้องฟ้าในงานเทศกาลว่าวประจำปี ที่เมือง Ahmadabad ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 11 vมกราคม 2012
มีนักเล่นว่าวชาวอินเดียและชาวต่างชาติมากกว่า 100 คนมาร่วมงานที่จัดขึ้น 5 วัน เริ่มจากวันเสาร์ที่ผ่านมา
A giant puppet stands as kites fly during the International Kite Festival in Ahmadabad, India, Wednesday, Jan. 11, 2012. More than a hundred Indian and foreign kite flyers participated in the five day long International kite festival that began Tuesday.


นกอินทรีย์มาบินวนว่าวรูปนกอินทรีย์ ณ งานเทศกาลว่าวนานาชาติประจำปี ที่เมือง Ahmadabad ทางตะวันตกของอินเดีย
Eagles fly around an eagle-shaped kite at international kite festival in western Indian city of Ahmedabad.


เหยี่ยวตัวหนึ่ง มองดูว่าวรูปเหยี่ยว ก่อนที่มันจะบินเข้าโจมตี ในงานเทศกาลว่าวนานาชาติประจำปี ที่เมือง Ahmadabad ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2012
A Kite looks at a bird-shaped kite before attacking it during the International Kite Festival in Ahmadabad, India, Wednesday, Jan. 11, 2012.


นักเล่นว่าวถือว่าวรูปของ เช กูวารา นักปฏิวัติชาวอาร์เยนตินา ที่งานเทศกาลว่าวนานาชาติประจำปี ที่เมือง Ahmadabad ทางตะวันตกของอินเดีย
Kite-flying enthusiast holds kite featuring Argentine revolutionary Che Guevara at international kite festival in western Indian city of Ahmedabad


ชายชาวอินเดียกำลังเตรียมเชือกป่านก่อนที่งานเทศกาลว่าวจะเริ่มขึ้น ซึ่งในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า Uttarayan หรือ Makar Sakranti ณ เมือง Ahmedabad ประเทศอินเดีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2012
มีการเล่นว่าวกันในหลายพื้นที่ของปนะเทศอินเดียในระหว่างเทศกาล Makar Sakranti ของชาวฮินดู ซึ่งจะทำการเฉลิมฉลองกันในวันที่ 14 มกราคม เพื่อส่งฟโหนาวและต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ
An Indian man prepares kite strings ahead of the kite festival locally called as Uttarayan or Makar Sakranti, in Ahmedabad, India, Thursday, Jan. 12, 2012. Kites are flown in many parts of India during the Hindu festival of Makar Sakranti to be celebrated on Jan. 14 to mark the transition of winter to spring.


หญิงชาวอินเดียถือว่าวก่อนหน้าเทศกาลว่าวจะเริ่มขึ้น ซึ่งในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า Uttarayan หรือ Makar Sakranti ณ เมือง Ahmedabad ประเทศอินเดีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2012
Indian women carry kites ahead of the kite festival locally called as Uttarayan or Makar Sakranti, in Ahmedabad, India, Thursday, Jan. 12, 2012

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

พลิกตำนาน… ว่าวไทย

พลิกตำนาน… ว่าวไทย การละเล่นพื้นบ้าน ความบันเทิงคลายเหงาในหน้าร้อน
ว่าวไทย
เมื่อฤดูร้อนมาเยือน กิจกรรมหรือการละเล่น เพื่อความบันเทิงอย่างหนึ่งของเด็กและผู้ใหญ่ ที่ได้รับความนิยมกันมาก ในทุกภาคของประเทศไทยเสมอมา ก็คือ การเล่นว่าว หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่มที่ 13กล่าวถึงการเล่นว่าวไว้ว่า ปรากฏหลักฐานการเล่นว่าวว่า มีมาแต่กรุงสุโขทัย เป็นว่าวที่ส่งเสียงดัง เวลาลอยอยู่ในอากาศ เรียกว่า ว่าวหง่าว ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็ปรากฏตามหลักฐานของชาวต่างประเทศว่า ว่าวของสมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม ปรากฏในท้องฟ้าทุกคืนตลอดเวลาระยะ 2 เดือน และยังกล่าวว่า ว่าวเป็นกีฬาที่เล่นกันอยู่ทั่วไปในหมู่ชาวสยาม และในสมัยพระเพทราชา เคยใช้ว่าวในการสงคราม โดยผูกหม้อดินบรรจุดินดำเข้ากับสายป่านว่าวจุฬาข้ามกำแพงเมือง แล้วจุดชนวนให้ระเบิดไหม้ เมืองนครราชสีมาได้สำเร็จ
จากหลักฐานข้างต้น แสดงให้เห็นว่าชาวไทยรู้จักการเล่นว่าว มาไม่ต่ำกว่า 700 ปีแล้ว ว่าว จึงถือเป็นผลผลิตหนึ่ง ที่เกิดจากภูมิปัญญาของช่างฝีมือพื้นบ้านไทย ในแต่ละท้องถิ่นที่นำเอาทรัพยากรธรรมชาติรอบตัว มาประดิษฐ์สร้างสรรค์ เป็นของเล่นให้แก่ลูกหลาน หรือใช้เล่นกันในเวลาว่างจากการทำงาน ดังนั้น องค์ความรู้ในการทำว่าว จึงนับเป็นมรดกตกทอด ที่บรรพบุรุษของเรา ได้คิดค้นและถ่ายทอดมาสู่ลูกหลาน ในแต่ละท้องถิ่น ชุมชน หรือบุคคล ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ที่โดดเด่นแตกต่างกันไป ปัจจุบันเหลือช่างฝีมือพื้นบ้านที่ชำนาญการทำว่าวน้อยลงมาก อาจเนื่องจากความนิยมในการเล่นว่าวลดลง และขาดผู้สืบทอด ส่งผลให้ภูมิปัญญาในการทำว่าวบางประเภท ใกล้สูญหายไป
zzzzzzwow.jpg
ว่าวจุฬา เป็นว่าวที่นิยมเล่นกันในภาคกลาง มีลักษณะเป็น 5 แฉก ประกอบเป็นโครงขึ้นด้วยไม้ 5 อัน ไม้อันกลางเรียกว่า อก เหลาหัวท้ายให้ปลายเรียว ไม้อีก 2 อันผูกขนาบตัวปลายให้จรดกันเป็นปีก และไม้อีก 2 อัน เป็นขาว่าวเรียกว่า ขากบ ส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้ไผ่สีสุก อายุประมาณ 3-4 ปี เพราะเนื้อไม้จะมีน้ำหนักเบา เหนียว ยืดหยุ่นสูง ไม่หักง่าย และมีเคล็ดว่าไม่ควรใช้ไม้ที่มีตำหนิ หรือเป็นรอยด่าง เพราะเนื้อไม้จะไม่เสมอกัน เป็นสาเหตุทำให้ว่าวเลี้ยงตัวไม่ดี จากนั้นนำโครงว่าวมาขึงดนตารางตลอดตัวว่าว เรียกว่า ผูกสัก แล้วใช้กระดาษปิดทับลงบนโครง วิธีการทำข้างต้นอาจดูคล้ายทำได้ง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำว่าวนับเป็นภูมิปัญญาที่ผู้ทำจะต้องมีความอดทน มีสมาธิ และเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดอย่างยิ่ง เพราะหากทำไม่ถูกสัดส่วนแล้ว ว่าวอาจจะไม่สามารถลอยตัวขึ้นได้เลย หรืออาจจะลอยตัวขึ้นได้แต่เอียงซ้าย/ขวา หมุนควง และดิ่งลงมาสู่พื้นในที่สุด ดังนั้น ช่างแต่ละคนจึงมีเคล็ดลับในการทำว่าวแตกต่างกันไป
ว่าววงเดือน หรือ ว่าวบุหลัน และอาจเรียกเป็นภาษามลายูว่า “วาบูแล” ซึ่งแปลว่า “ว่าวเดือน” นิยมเล่นในภาคใต้ตอนล่าง
ว่าวไทย

ปัจจุบันการเล่นว่าวในภูมิภาคต่างๆ ของไทย นิยมเล่นกันทั้งในหน้าหนาวและหน้าร้อน โดยต้องอาศัยกระแสลม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เล่นว่าว ได้อย่างสนุกสนาน กระแสลมดังกล่าวมี 2 ระยะ คือ ระยะหน้าหนาว คือในช่วงเดือน พ.ย.ถึง ก.พ. เป็นลมที่พัดจากผืนแผ่นดินลงสู่ทะเล ทำให้คนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิยมเล่นว่าวกันในช่วงนี้
ส่วนหน้าร้อน ในราวเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.จะมีลมตะวันตกเฉียงใต้ จากทะเลพัดสู่ผืนแผ่นดินใหญ่ เรียกว่าลมตะเภา หรือ ลมว่าว ทำให้ชาวภาคกลาง ภาคตะวันตกและภาคใต้ นิยมเล่นว่าวในฤดูนี้ ส่วนวิธีการเล่นว่าวนั้น คนไทยนิยมเล่นอยู่ 3 วิธี คือ การชักว่าวให้ลอยลมปักอยู่กับที่ เพื่อดูความสวยงามของว่าวรูปต่างๆ การชักว่าวแบบบังคับสาย ให้เคลื่อนไหวได้ตามต้องการ เพื่อแสดงความงดงาม ความสูง หรือความไพเราะของเสียงว่าว และวิธีสุดท้ายที่แตกต่างจากชาติอื่น คือ การชักว่าวแบบต่อสู้กันบนอากาศ เช่น ว่าวจุฬา ปักเป้า เป็นต้น

ว่าวไทย

ว่าวไทย


การเล่นว่าว นอกจากจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด จากการเรียนของเด็กๆ และการทำงานของผู้ปกครอง ได้เสริมสร้างกำลังกายให้แข็งแรง หรือลับสมองด้วยกติกาการแข่งขันสนุกๆ แล้ว ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว ทำให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีน้ำใจนักกีฬากับผู้เล่นคนอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ไม่หมกมุ่นอยู่ แต่กับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ หรือดูทีวี ที่สำคัญที่สุดความประทับใจอันเกิดจากการเล่นว่าว ยังอาจเป็นหนทางหนึ่ง ที่จะจุดประกายให้เด็กๆ เกิดความสนใจ และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญาของช่างฝีมือพื้นบ้านไทย ให้เป็นมรดกของชาติสืบไป…ก็เป็นได้
ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : เยาวนิศ เต็งไตรรัตน์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

ครูว่าว นักว่าว และ ความรู้เรื่องว่าว ในประเทศไทย

ครูว่าว นักว่าว และ ความรู้เรื่องว่าว ในประเทศไทย
สมหมาย วัฒนมงคล พี่สมหมาย วัฒนมงคล
พี่สมหมาย เป็นนักประดิษฐ์และอนุรักษ์ว่าวไทยในระดับแนวหน้า มีชื่อเสียงจากการประดิษฐ์ว่าวแผงและว่าวภาพ ได้รับรางวัลจากการประกวดมากมาย เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่พี่สมหมาย จากพวกเราไปเมื่อวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม 2550
ประวัติและผลงาน
สมัชชา นิยมศิลป์ พี่สมัชชา นิยมศิลป์
พี่สมัชชา เป็นประธานสมาคมนักบินว่าว (TKA - Thailand Kitefliers Association)
ประวัติและผลงาน สมาคมนักบินว่าวประเทศไทย (TKA) : ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยพี่สมัชชา นิยมศิลป ร่วมกับ พ.ต.อ.(พิเศษ) รชตพล สุนทรศารทูล และนักบินว่าวอีกส่วนหนึ่ง
Thailand Kitefliers Association (TKA) : เป็น web page ภาษาอังกฤษของ TKA ครับ
Ron Spaulding Ron Spaulding
รอนเป็นนักว่าวอาวุโสที่ช่วยเหลืองานว่าวนานาชาติในประเทศไทย มานานหลายปีแล้วครับ
อ่าน ประวัติและผลงาน จากบทความ "High Flyer" จาก นสพ. Bangkok Post วันที่ 3 April 2006
ตี๋ - สัญญา พุทธเจริญลาภ ตี๋ - สัญญา พุทธเจริญลาภ
เจ้าของ เวปไซด์ www.tigerkite.com
ประวัติและผลงาน
Sport Kite Thailand SKT : Sport Kite Thailand
กลุ่มว่าวภายใต้ เวปไซด์ www.sportkitethailand.com
จำหน่ายว่าวหลายประเภท และว่าว Revolution ซึ่งเป็นว่าวบังคับ 4 สาย พบตัวจริงเสียงจริง ของคุณ แจ็ค (Jack) และชมว่าว ได้ที่เมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ วันอาทิตย์ ประมาณบ่าย 3โมง หรือทาง email หรือ MSN kachathong@hotmail.com หรือ โทรศัพท์ 085-061-1883
ภาพกิจกรรมว่าวสนามเมืองทองธานี
ครูสวย เศียรกระโทก ครูสวย เศียรกระโทก
นักประดิษฐ์ว่าวกระดาษสา พำนักอยู่บริเวณคลองสองต้นนุ่น ทำการเปิดสอนและฝึกอบรมให้แก่เด็กนักเรียนของโรงเรียนที่สนใจ มีการนำผลงานไปจำหน่ายที่ร้านขายว่าวในย่านตลาดโบ๊เบ๊
ผลงาน
กลุ่มรุ่งอรุณ
ผลิต-จำหน่าย ออกร้านสาธิตประดิษฐ์ ของเล่นพื้นบ้าน-ของเล่นงานวัด-ขนมโบราณงานวัด
ของเล่นในมิติอนุรักษ์ธรรมชาติ วัฒนธรรม สุขภาพ และ วิทยาศาสตร์
67/297-8 หมู่ 8 ซ.เอกชัย 42 แขวง/เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150
โทรศัพท์ : 02-898-2286, 02-898-0020
มือถือ : 081-653-5267 , 089-105-0653
ครูกุน บุญนก ครู กุน บุญนก
เปิดสอนทำว่าวภายในชุมชนฯ โดยสอนเป็นกลุ่ม และยินดีที่เป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านการทำว่าว แก่ผู้ที่สนใจ เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ให้หัตถกรรมพื้นบ้านนี้คงอยู่ต่อไป
ที่อยู่ : 304/686 หมู่ที่ 3 การเคหะแห่งชาติบางบัว ซ.พหลโยธิน 49/1 ถ.พหลโยธิน แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
เวลาเยี่ยมชม : ทุกวัน 08:00-20:00 น. ไม่เสียค่าธรรมเนียม
รายละเอียดบน bangkoktourist.com ภาพลุงกุน และว่าวของลุง
นายประทีป สุขโสภา
เป็นศิลปินพื้นบ้านสุโขทัย มีผลงานดีเด่นสาขานันทนาการ เช่น ของเล่นพื้นบ้าน ว่าวไทย และ การทำของเล่นจากเศษวัสดุ
ที่อยู่ : ตำบลย่านยาว อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
รายละเอียดบน intranet.m-culture.go.th
สุภวรรณ พันธุ์จันทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุภวรรณ พันธุ์จันทร์
เขียนบทความ "ว่าวไทย" ครอบคลุมเรื่องราวต่างๆ ได้แก่ ประวัติว่าว, ความมุ่งหมายและประโยชน์ของการเล่นว่าว, ความเป็นมาของว่าวไทย, ว่าวในรัชกาลต่างๆ, ว่าวในจิตรกรรมไทย, ว่าวกับวรรณคดีไทยและบทเพลง, ประเภทและชนิดของว่าวไทย, ว่าวในสมัยต่างๆ, พระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร), ลมว่าว, ว่าวสำหรับเด็ก, สำนวนภาษาที่มาจากอิทธิพลของการเล่นว่าว, วิธีทำว่าวอีลุ้ม อาจารย์สุภวรรณ มีตำแหน่งเป็น หัวหน้าศูนย์วัฒนธรรมศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพื้นที่พิษณุโลก : 52 หมู่ 7 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 โทรศัพท์ : 0-5529-8438-40
ภาพว่าวต่างๆ ของศูนย์วัฒนธรรมฯ
ภาพว่าวจุฬาต่างๆ ของศูนย์วัฒนธรรมฯ
ที่มาภาพประกอบ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุภวรรณ พันธุ์จันทร์
ตานุ่ม นายนุ่ม ฟักทอง
อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 1 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ทำว่าวมาประมาณ 10 ปี ภาพตานุ่ม กำลังทำว่าว
ที่มาภาพประกอบ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุภวรรณ พันธุ์จันทร์
ว่าวภาคใต้, ชมรมว่าวบินปัตตานี และ ว่าวบาติก ตำบลสะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี รายละเอียด
ว่าวจุฬาที่บ้านดอนคา จังหวัดนครสวรรค์
ว่าว : สำนักพัฒนาการกีฬา สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ว่าว : ประเพณีไทย.คอม
ว่าว : ศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ (TKC:Thailand Knowledge Center)
Sanamluang : ที่ www.at-bangkok.com
ว่าว-วิกิพีเดีย : ที่ th.wikipedia.org
การถ่ายภาพทางอากาศจากว่าว : การเรียนรู้การถ่ายภาพทางอากาศ โดยใช้ว่าวเป็นตัวยกกล้อง
Sanook Sky Kite Flyer Club : ชมรมว่าวสนุกสกาย จำหน่ายทั้ง ว่าวไทย (Thai Traditional Kites) และ ว่าวสากล (International Kites)
Extreme-kite : จำหน่าย Stunt Kite ครับ มี web อีกแห่งหนึ่ง ด้วย ที่นี่ ครับ เห็นว่าจะเปิด web site ใหม่ ที่นี่ ครับ
ประวัติการเล่นว่าวในประเทศไทย : ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ถึงปัจจุบัน
ว่าวไทยไม่ใช่แค่กระดาษ : มีรายละเอียดของว่าวไทยแบบต่างๆ
ว่าว : วิธีการทำว่าวอีลุ้ม
จุฬา-ปักเป้า ว่าวไทย : ประวัติว่าวไทย เป็นภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
TigerKite : ร้านจำหน่ายว่าวบน internet
ประวัติความเป็นมางานว่าวนานาชาติ : บน web ของ ททท.
เรื่องของพระร่วงกับว่าว : ประชุมพงศาวดาร
2007 CLUB LOONG CHAT : windsurfing และ kiteboarding
LINKS ต่างประเทศ
Microyang Kite Studio : web page
Chinese Kite Flying Association : web page
Weifang World Kite Museum : web page
The American Kitefliers Association : web page
La Maison du Cerf-Volant : web page
Gomberg Kite Productions International Inc. : main web page , Kite History
Fly High (Austria) : web page
Korea Kitefliers Association : web page
Peter Lynn Kites : web page
Team Mangalore (India) : web page
Kite Magic (Australia) : web page
Wild Kite at Funny Games : เกมบน net เกี่ยวกับการเล่นว่าว web page
Kites On The Winds of War : บทความเกี่ยวกับการใช้ว่าวในการสงคราม web page
The Early History of Air Scouting : บทความเกี่ยวกับประวัติของการสำรวจทางอากาศ web page
ประวัติความเป็นมาของว่าว : บน coda.co.za web page
หมู่บ้านวัฒนธรรมตระกูลหยาง - ฝงไหลเซียนจิ้ง - แยนไถ : ภาพการทำว่าวที่เมืองเหวยฟาง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองว่าว เป็นเมืองที่มีการผลิตว่าวเป็นอันดับหนึ่งของจีน บนเสาไฟฟ้าตามถนนหนทางจะมีหลอดนีออนที่ดัดให้เป็นรูปว่าวสัตว์ต่างๆ ตอนกลางคืนจะดูสวยงามมาก web page
Kite History : บน blogspot.com web page


ศัพท์เกี่ยวกับว่าว
ลมว่าว ลมประจำถิ่นในประเทศไทย เกิดในต้นฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ มีทิศทางลมค่อนข้างแน่นอน พัดจากผืนแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชียผ่านภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ไปยังมหาสมุทรทางใต้ คนไทยในสมัยสุโขทัยและอยุธยานิยมเล่นว่าวกันในช่วงนี้ เช่นเดียวกันกับชาวไทยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังยึดถือระยะเวลาการเล่นเช่นในอดีต คือในระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
มักมีผู้เข้าใจผิดว่าลมว่าวคือ ลมตะเภา ซึ่งเป็นลมที่พัดในช่วงเดือนมีนาคม ที่ชาวภาคกลางในปัจจุบันนิยมเล่นว่าวกัน
ที่มา : ว่าวไทย
ลมตะเภา หรืออีกชื่อว่า ลมสำเภา เป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดมาในช่วงฤดูร้อน ในเดือนมีนาคม-เมษายน จากมหาสมุทรแถบใต้ของเอเชีย เข้าสู่พื้นแผ่นดินใหญ่ผ่านประเทศไทย ในสมัยโบราณ เรือสำเภาของพ่อค้าจะอาศัยลมนี้เดินทางมาติดต่อค้าขายตามเมืองชายฝั่งทะเล ลมนี้ มักมีผู้เข้าใจผิดว่าเป็น ลมว่าว
หน้าว่าว ช่วงเวลาที่นิยมเล่นว่าว ต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค
  • ประเทศไทย ภาคกลาง : มีนาคม - เมษายน
  • ประเทศไทย ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ธันวาคม - กุมภาพันธ์
  • ประเทศไทย ภาคใต้ : กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม
  • บาหลี : กรกฎาคม - กันยายน
ว่าวปักเป้า ว่าวไทย มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ผูกคอซุงที่อก มีหางยาวไว้ถ่วงน้ำหนัก มีอาวุธคือ เหนียง
ว่าวจุฬา ว่าวไทยชนิดหนึ่ง เดิมเรียกว่า ว่าวกุลา มีลักษณะคล้าวดาวห้าแฉก ผูกคอซุงที่อก ไม่มีหาง มีอาวุธคือ จำปา และ ลูกดิ่ง อาจมีขนาดยาวถึง 2 เมตร
บ้างสันนิษฐานว่ามีอิทธิพลมาจากว่าวรูปดาวของอินเดีย
ว่าวจุฬา ทำจากไม้ไผ่ซีกหนา 5 ชิ้น เหลาให้เรียว คือ ไม้อก 1 ชิ้น ไม้ปีก 2 ชิ้น ไม้ขากบ 2 ชิ้น
ป่านที่ใช้กับว่าวจุฬา คือ ป่านสี่เกลียว ที่มีความเหนียวและคงทน
ว่าวอีลุ้ม ว่าวลักษณะคล้ายว่าวปักเป้า ไม่มีหาง มีพู่ถ่วง 2 ข้างปีก
ว่าวอีแพรด ว่าวดัดแปลงจากว่าวอีลุ้ม แต่ใช้กระดาษว่าวทำชายห้อยแทนพู่ เมื่อกระตุกสายให้โฉบจะเกิดเสียงดัง แพรดๆ
ว่าวลม หรือ ว่าวรม/ฮม หรือ ว่าวควัน เป็นชื่อที่ใช้เรียก โคมลอย นั่นเอง มีคำอธิบายว่า ว่าวเป็นเครื่องเล่นที่ใช้ลมพยุงให้ลอยในอากาศ ดังนั้น เครื่องเล่นที่ใช้ควันเป็นตัวช่วยพยุง จึงควรเรียกว่า ว่าวควัน และในเวลากลางคืน ยังเรียกว่า ว่าวไฟ ด้วย เนื่องจากสามารถมองเห็นไฟที่ลุกติดอยู่ด้านล่างของเครื่องเล่น
ที่มา : ซะป๊ะเรื่องเมืองล้านนา
ว่าวหง่าว เป็นว่าวของฮินดู ในประเทศอินเดีย ใช้ใน พิธีเสี่ยงเคราะห์โศกของบ้านเมือง ที่มา : ว่าวไทย
ว่าว rerean และ ว่าว bebean เป็นว่าวของบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ว่าว 2 ประเภท ที่ชาวบาหลีนิยมเล่น ได้แก่ว่าว rerean ที่เป็นว่าวต่อสู้ขนาดเล็กและเบา และ ว่าว bebean ที่เป็นว่าวพื้นเมืองที่มีขนาดใหญ่กว่า
ว่าวเกาหลี ว่าวที่เห็นทั่วไป เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีโครงไม้ 4 อัน คาดตัดกัน ส่วนกลางเว้นว่างเป็นรูปวงกลม
Kite Train แปลว่า "ว่าวสาย" หรือ "ว่าวขบวน" ครับ ไม่ใช่แปลว่า รถไฟว่าว
ว่าว MegaMoon เป็นว่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ เป็นของประเทศญี่ปุ่น อ่าน รายละเอียด ได้ครับ ว่าวที่มีขนาดเล็ก ไล่เลี่ยกันมา คือ ว่าว MegaFlag ของประเทศอเมริกา และ ประเทศคูเวต
เหนียง เป็นอาวุธของว่าวปักเป้า มีลักษณะเป็นห่วงป่าน ติดใต้คอซุง ไว้คล้องตัวว่าวจุฬาเพื่อให้ว่าวจุฬาเสียหลัก ประกอบด้วย สายทุ้ง และ สายยืน
จำปา เป็นอาวุธของว่าวจุฬา เป็นไม้เหลาโค้งประกบติดกับสายป่าน ต่อจากซุงลงมา ไว้เกี่ยวว่าวปักเป้า
สะนู หรือ ธนู หรือ แอก เป็นโครงไม้ไผ่มีลักษณะโค้งคล้ายคันธนู มักติดไว้ที่ส่วนหัวของว่าวภาคใต้ ทำให้เกิดเสียง
อูด วัสดุที่ทำให้เกิดเสียงดัง ใช้ติดกับว่าวหง่าว ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ไม้ไผ่สีสุก เป็นวัสดุธรรมชาติ นิยมใช้ทำว่าวปักเป้า และ ว่าวจุฬา เพราะมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ไม่หักง่าย
ป่านคม เป็นการติดเศษแก้วเข้ากับป่าน เพื่อให้คม สามารถใช้ตัดสายป่านของคู่แข่งให้ขาดลอย
ติดลมบน การที่ว่าวขึ้นสู่ที่สูงที่มีลมแรง ทำให้ไม่ร่วงหล่นลงมาสู่พื้นง่ายๆ
ว่าวชนิดแข็ง และ ว่าวชนิดอ่อน การเรียกว่าวตามความแข็งของโครงว่าว ว่าวชนิดแข็งใช้ในวันที่มีลมแรง ว่าวชนิดอ่อนใช้ในวันที่มีสภาพลมอ่อน
ว่าวในภาษาต่างๆ Drachen (เยอรมนี), Cerf volant (ฝรั่งเศส), Pathang (อินเดีย), Tako (ญี่ปุ่น), Yeon (เกาหลี), Wind Climbers (แคนาดา) ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน หน้านี้ ครับ
kite มีความหมายอื่น นอกจาก 'ว่าว' นะครับ kite ยังแปลว่า 'นกเหยี่ยวขนาดเล็ก' ได้ด้วย ถ้าไปเจอภาพบน net เขียนว่า 'black kite' ละก็ อาจไม่ได้แปลว่า 'ว่าวสีดำ' ก็ได้ แต่อาจจะเป็น 'นกเหยี่ยวสีดำขนาดเล็ก' ครับ
man-carrying kites ว่าวที่สามารถยกคนขึ้นไปกับว่าว คนจะอยู่กับตัวว่าว
man-lifting kites ว่าวที่สามารถยกคนขึ้นไปกับว่าว คนจะห้อยอยู่ด้านล่างของว่าว
man-lifting kite
Roald Amundsen ถูกยกโดยว่าว ในปี ค.ศ.1909
ว่าวยกคนถูกใช้ในการสำรวจ และเพื่อความบันเทิง และเริ่มลดความนิยมเมื่อมีการประดิษฐ์เครื่องบิน ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ที่มา : man-lifting kite: information from Answers.com
สถิติความสูงของว่าว W.A. Eddy ส่งว่าวมาเลย์ (Malay Kite) ขึ้นไปสูง 1,705 เมตร (5,5595 ฟุต) นานถึง 15 ชั่วโมง
ที่มา : man-lifting kite: information from Answers.com
Bell Cygnet Kite Centennial 2007 วันที่ 21 สิงหาคม 2007 เป็นวันครบรอบ 100 ปี ของการที่ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ นำว่าว ซิกเนต ขึ้นในอากาศ นักว่าวประมาณ 40 คน จากแคนาดา และประเทศอื่นๆ รวมตัวกันที่ Baddeck, Nova Scotia เพื่อเฉลิมฉลอง
ที่มา : Steadywinds.com Cool Projects

ภาพเก่า

ภาพเก่า


ว่าว016
ว่าว016
ว่าว001
ว่าว001
ว่าว002
ว่าว002
ว่าว003
ว่าว003
ว่าว004
ว่าว004
ว่าว005
ว่าว005
ว่าว006
ว่าว006
ว่าว007
ว่าว007
ว่าว008
ว่าว008
ว่าว009
ว่าว009
ว่าว010
ว่าว010
ว่าว011
ว่าว011
ว่าว012
ว่าว012
ว่าว013
ว่าว013
ว่าว014
ว่าว014
ว่าว015
ว่าว015
ว่าว
ว่าว
ว่าวจุฬา1

ว่าวหมุน

ว่าวหมุน
Rotating Kites



<>
ว่าวหมุน
ว่าวหมุน ก็มีสมาชิกอยู่หลายตัว ได้แก่ ว่าวไจโร (Gyrokite), ว่าวกังหัน (Windmill Kites), ว่าวยูเอฟโอ และว่าวโรเตอร์ (UFO and Rotor Kites), ว่าวเครื่องบินปีกหมุน (Rotoplane), โบว์เวหา (Skybow), ว่าวกล่องหมุน (Rotating Box Kites), และ โบล (Bol) แต่ละตัวอาศัยแรงยกตัวที่เกิดจากการหมุนของส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวว่าว
ว่าวไจโร (Gyrokite)
ว่าวไจโร (Gyrokite) หรือ ไจโรเพลน (Gyroplane) หรือ ออโตไจโร (Autogyro) หรือ ไจโรไกลเดอร์ (Gyro Glider)
ที่จริงแล้ว ใบพัดของว่าวไจโรทำหน้าที่เดียวกันกับปีกของเครื่องบิน แต่แทนที่จะมีการเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง กลับมีการเคลื่อนที่เป็นวงกลมแทน ใบพัดแต่ละใบจะเคลื่อนที่และสร้างแรงยกให้กับว่าวอย่างต่อเนื่อง โดยจะทำมุมเอียงเล็กน้อยออกจากทิศทางของลม
ผู้ที่เคยได้ลองเล่นว่าวไจโรมักมีความคิดเห็นโดยรวมว่า ว่าวไจโรเป็นของเล่นที่น่าทึ่งมาก ว่าวต้องการลมต่อเนื่องในการขึ้นบินที่สำเร็จ และต้องให้ใบพัดรับลมและหมุนด้วยความเร็วพอก่อนที่จะปล่อยว่าวออกไป
ชาวสเปนชื่อ Juan de la Cierva (คศ. 1895-1936) ทำการทดสอบว่าวไจโรจนประสบความสำเร็จ เขาพบว่า มีความจำเป็นที่ต้องออกแบบให้ใบพัดแต่ละใบสามารถแกว่งไปมาได้เล็กน้อย
ในช่วงทศวรรษ 1930 บริษัท Captive Flight Devices ในรัฐเพนซิลวาเนีย นำว่าวไจโร ขนาด 36" ออกจำหน่ายในท้องตลาด ว่าวประกอบด้วยใบพัดขนาด 36" (กระพือได้) ยึดติดกับส่วนกลางของว่าว พร้อม ปีกและหาง ว่าวมีน้ำหนักค่อนข้างมาก และมีความเสถียรในการบินค่อนข้างมากเมื่อมีลมแรง เนื่องจากการหมุนของใบพัดช่วยในด้านความเสถียร และโมเมนตัมของใบพัดจะช่วยชดเชยแรงยกตัวเมื่อลมน้อย
ในปี คศ.1943 เยอรมันปล่อยว่าวไจโร ชื่อ Focke-Achgelis F.A.330 จากเรือดำน้ำเพื่อใช้ในการสำรวจเบื้องต้น เรือดำน้ำจะลากว่าวนี้พร้อมคนขึ้นไปในอากาศสูงหลายร้อยฟุต คนที่ติดขึ้นไปกับว่าวสามารถทิ้งใบพัดในกรณีฉุกเฉิน และใช้ร่มชูชีพเพื่อลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
ว่าวไจโร ว่าวไจโร ว่าวไจโร
ว่าวกังหัน (Windmill Kites)
ว่าวกังหันถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย ดอน แมธธิวส์ (Don Matthews) ชาวออสเตรเลีย ว่าวประกอบด้วยกังหันผ้า 4 ตัว หมุนตามความเร็วของลม สร้างแรงยกให้กับว่าว
ว่าวกังหัน ว่าวกังหัน ว่าวกังหัน

ว่าวยูเอฟโอ (UFO Kite)
ว่าวยูเอฟโอ (UFO Kite) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ว่าวยูเอฟโอ แซม (UFO Sam) เพื่อเป็นเกียรติแก่ เคนเนธ แซม (Kenneth Sam) ผู้ประดิษฐ์ว่าวยูเอฟโอ
ว่าวยูเอฟโอ และ ว่าวโรเตอร์ ใช้หลักการบินเดียวกัน มีชื่อเรียกว่า แมกนัสเอฟเฟกต์ (Magnus Effect) อธิบายได้ง่ายๆ คือ การหมุนของว่าวด้านหน้าจากล่างขึ้นบน ทำให้กระแสลมเคลื่อนที่ผ่านด้านบนของว่าวเร็วกว่าด้านล่่าง ส่งผลให้แรงดันอากาศด้านล่างว่าวสูงกว่าด้านบน เกิดแรงยกตัวขึ้น คล้ายๆ กับปีกของเครื่องบินเมื่อมีการเคลื่อนที่
ว่าวยูเอฟโอ ว่าวยูเอฟโอ ว่าวยูเอฟโอ ว่าวยูเอฟโอ
ว่าวโรเตอร์ (Rotor Kites)
ถ้าดูให้ดี จะเห็นว่าว่าวโรเตอร์มีส่วนคล้ายคลึงกับว่าวยูเอฟโอมากเลยครับ ว่าวโรเตอร์จะมีแผ่นกลมแนวตั้ง ที่เรียกว่า spindle อยู่ 2 แผ่น ที่ด้านซ้าย-ขวา และมีแผ่นวงรีแนวนอน ที่เรียกว่า paddle อยู่อย่างน้อย 2 แผ่น ในขณะที่ว่าวยูเอฟโอจะมีแผ่นแนวตั้งอยู่แค่ 1 แผ่น ณ ตรงกลางว่าว และมีแผ่นวงรีแนวนอน อยู่ 2 แผ่น
ขณะบิน แกนของว่าวโรเตอร์จะขนานกับพื้นดิน และตั้งฉากกับทิศทางของลม
ว่าวโรเตอร์ ว่าวโรเตอร์
เครื่องบินปีกหมุน (Rotoplane)
ว่าวนี้ใช้เชือกเส้นเดียวเองครับ ผูกกับโครงลวดงอๆ ที่ยื่นออกมาใต้เครื่องบิน ปีกทั้งสองด้านของเครื่องบินจะหมุนเร็วจึ๋เมื่อลมมาปะทะ และพยุงให้ว่าวลอยสูงขึ้น ตัวว่าว (ลำตัว+ปีก) ทำด้วยพลาสติกบางสีสันสดใส
เครื่องบินปีกหมุนเป็นว่าวที่ขึ้นค่อนข้างง่าย ไม่ต้องการลมแรงมาก ขอเป็นลมต่อเนื่องก็จะดี บางครั้งขณะที่ว่าวกำลังอยู่บนฟ้า ถ้าปีกเกิดติดหรือสะดุด และหยุดหมุน ก็จะทำให้ว่าวตกได้ครับ
ว่าวตัวนี้มีจำหน่ายในประเทศไทยด้วยครับ แต่ออกจะหายากสักหน่อย ที่เคยเห็นก็จะเป็นที่ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และที่ งานว่าวไทยและว่าวนานาชาติ ครั้งที่ 10 ที่ผ่านมา
เครื่องบินปีกหมุน เครื่องบินปีกหมุน
โบว์เวหา (Skybow)
โบว์เวหา ถือว่าเป็นการประยุกต์ใช้ แมกนัสเอฟเฟกต์ ในการออกแบบว่าว แบบสุดโต่งเลยทีเดียวครับ ว่าวประเภทนี้ประกอบด้วยเส้นริบบิ้น (โบว์) ที่มีความยาวได้ถึง 1,000 ฟุต ปลายแต่ละด้านโยงยึดติดกับพื้นดิน ณ จุดหัว-ท้าย และ บางจุดของเส้นริบบิ้น จะติดตัวหมุน เพื่อให้เส้นริบบิ้นเกิดการหมุนอย่างเร็ว ก่อให้เกิดแรงยก ทำให้ริบบิ้นเกิดเป็นวงโค้งสวยงาม แถมมีเสียงดังหึ่งๆ แปลกๆ อีกด้วย (คงคล้ายกับดุ๊ยดุ่ยของไทย)
ทางบริษัทผู้พัฒนาและผลิตว่าว ชื่อ WindMueller Aerology Research and Development Laboratory ใน Boca Raton รัฐฟลอริด้า กล่าวถึงว่าวที่มีความยาว 1,000 ฟุต ทำให้เกิดโค้งกว้าง 333 ฟุต ทำให้เกิดแรงดึงมากกว่า 33 ปอนด์ ที่ปลายทั้ง 2 ข้าง ในแรงลมอ่อนๆ ว่าวจะหมุนด้วยความเร็วถึง 3,000 รอบต่อนาที ทำให้เกิดเสียงหึ่ง (hum) ซึ่งจะดังที่สุด ณ ใต้จุดศูนย์กลางโค้ง
จิม มัลลอส (Jim Mallos) และ โทนี่ เฟรม (Tony Frame) เป็นผู้ประดิษฐ์ว่าวโบว์เวหาครับ
ว่าวโบว์เวหา ชื่อ มิสเตอร์บิ๊ก (Mr.Big) ประกอบด้วยโบว์กว้าง 5/8" (1.6 ซม.) ต่อกัน 6 เส้น จนมีความยาวถึง 1,000 ฟุต (303 เมตร) จิม มัลลอส และ โทนี่ เฟรม ขึ้นว่าวตัวนี้ หน้าอนุสาวรีย์ประธานาธิบดีวอชิงตัน (Washington Monument) รัฐวอชิงตันดีซี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2540 (คศ.1997)
ในช่วงระยะหลัง ไม่มีการนำโบว์เวหา ไปจัดแสดงที่งานว่าวเลย ทำให้เกิดคำถามจากนักว่าวหลายคนว่า ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แถมข้อมูลการประดิษฐ์ว่าวบน web ยังถูกลบออกไปด้วย
โบว์เวหา โบว์เวหา
ว่าวกล่องหมุน (Rotating Box Kites)
ว่าวกล่องหมุน คือว่าวกล่องมีครีบ ที่ยึดกับเชือกในลักษณะที่ทำให้สามารถหมุนตั้งฉากกับทิศทางของลม
ว่าวนี้มีข้อเสียหลักคือ มักจะบินเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง เนื่องจากความไม่สมดุลของแรงที่เกิดจากการหมุน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ โดยการบินว่าว 2 ตัวคู่กัน แต่ละตัวหมุนในทิศทางกลับกัน ข้อเสียอีกข้อหนึ่ง คือสายว่าวมักจะหมุนเป็นเกลียว จึงแนะนำให้ใช้ตัวหมุน (swival) เพื่อป้องกันการเกิดเกลียว
ตัวอย่างของว่าวกล่องหมุน ได้แก่ ว่าวสปินนิ่งเจนนี่ (Spinning Jenny) ซึ่งดูคล้ายๆ กับว่าวเซอโคเฟลกซ์ (Circoflex Kite) โดยว่าวสปินนิ่งเจนนี่จะมีลักษณะเป็นท่อยาว และหมุน แต่เซอโคเฟลกซ์จะมีลักษณะเป็นวงแหวนบางๆ และไม่หมุน
ว่าวกล่องหมุน ว่าวกล่องหมุน ว่าวกล่องหมุน
โบล (Bol)
ส่วนใหญ่แล้ว คนที่ทำว่าวโบล จะทำให้มันหมุนได้ เพื่อให้ดูสวยงาม บางคนไม่ค่อยจะเห็นด้วย เรื่องการเรียกโบลเป็นว่าวชนิดหนึ่ง เนื่องจากมันไม่ได้ "บิน" แต่จะ "เด้ง" ขึ้นลงจากพื้นดินเสียมากกว่า หากมันลอยได้บ้าง ก็จะเป็นเพราะลมที่อยู่ด้านบน เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าลมที่อยู่ด้านล่างนั่นเอง ดังนั้น เราจึงไม่เห็นโบล ขึ้นไปลอยอยู่สูงๆ เหมือนกับว่าวประเภทอื่น
คำว่า "bol" เป็นคำภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "ถ้วยกาแฟขนาดใหญ่" (large wide-brimmed breakfast coffee cups)
มองในอีกมุมหนึ่ง โบล คือ ร่มชูชีพขนาดใหญ่ ที่มีช่องระบายลมขนาดใหญ่มากนั่นเอง ความกว้างของช่องเปิดอาจมากถึง 90% ของเส้นผ่าศูนย์กลางของโบล โบลหมุนได้ เพราะลักษณะการตัดเย็บว่าว ที่นำให้ลมที่พัดผ่าน ไหลออกทางด้านหลังในแบบเฉียงๆ ผ่านรูเปิดตรงกลาง หรือช่องระบายอากาศ
โบล โบล โบล